เตา อั้งโล่ โบราณ
ประโยชน์ต่อการศึกษา ผู้เรียนได้รับการพัฒนาครบสมบูรณ์ในทุกด้านทั้งทางด้านทัศนคติ ทักษะ และความรู้ 3. ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ เกิดการเตรียมความพร้อมของคนรุ่นใหม่ที่มีทักษะและคุณลักษณะทางอาชีพที่จำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละจังหวัด 4. ประโยชน์ต่อสังคม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพการศึกษาและลดช่องว่างของโอกาสทางการศึกษาทางสังคม 5. ประโยชน์ต่อการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศและการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา ทั้งนี้ความสำเร็จทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยความร่วมมือ ร่วมใจ และความตั้งใจอย่างแรงกล้า ของผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่จะมาร่วมคิด ร่วมออกแบบและจัดการศึกษาเชิงพื้นที่อย่างจริงจัง เพื่อให้เด็ก เยาวชน คนในพื้นที่ได้รับโอกาสทางการศึกษา มีคุณภาพการเรียนรู้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ และจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน" Written by พิทักษ์ โสตถยาคม และเก ประเสริฐสังข์ Artwork by เก ประเสริฐสังข์ ศศิธร สวัสดี และภัชธีญา ปัญญารัมย์
สาขาวิชา นวัตกรรมสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ชื่อหลักสูตร ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ชื่อปริญญา ศิลปศาสตรบัณฑิต (นวัตกรรมสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) หลักสูตร 4 ปี ปรัชญาของหลักสูตร ความรู้ทางนวัตกรรมสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นการเรียนรู้ปรากฏการณ์ทางสังคม โดยใช้หลักของการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นแนวทางแก้ปัญหาทางสังคม สร้างสรรค์และปฏิรูปชุมชนท้องถิ่น คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า มีคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2. 00 รูปแบบหลักสูตร หลักสูตรปริญญาตรี หลักสูตร 4 ปีจำนวนหน่วยกิตที่เรียนตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 124หน่วยกิต แนวทางการศึกษาต่อ บัณฑิตสามารถศึกษาต่อในระดับปริญญาโท – เอก ทั้งในและต่างประเทศในสาขาที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชานี้สามารถประกอบอาชีพ ดังนี้ นวัตกรทางสังคม นักปฏิบัติการทางสังคม นักวิจารณ์และผู้สื่อข่าวทางสังคม นักเขียนสารคดีทางสังคม นักประวัติศาสตร์เชิงสังคม นักทัณฑวิทยาปฏิบัติการ นักพัฒนาสังคม
นวัตกรรมประเภทผลิตภัณฑ์หรือสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมประเภทนี้มีลักษณะเป็นสื่อที่ช่วยในการจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีความ เข้าใจกระจ่างชัดเจนในเรื่องที่เรียน หรือทำให้ผู้เรียนได้มีการพัฒนาการเรียนรู้ในทักษะด้านต่างๆได้เร็วยิ่งขึ้น นวัตกรรมประเภทนี้ได้แก่ · ชุดการเรียน / ชุดการสอน / ชุดการเรียนการสอน · แบบฝึกทักษะ / ชุดการฝึก / ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ · บทเรียนสำเร็จรูปแบบสื่อผงม / บทเรียนโปรแกรม · เกม · การ์ตูน · นิทาน · เอกสารประกอบการเรียนรู้ / เอกสารประกอบการเรียนการสอน / เกสารประกอบการสอน ฯลฯ 2. นวัตกรรมประเภทรูปแบบ / เทคนิค / วิธีการสอน นวัตกรรมประเภทนี้เป็นการใช้วิธีการสอนหรือเทคนิคการสอนในรูปแบบต่างๆที่นักการศึกษาได้คิดค้นเพื่อพัฒนาการด้านการเรียนรู้ให้แก่ผู้รีเยนทั้งในด้านการความรู้ ทักษะกระบวนการ และเจตนคติ ซึ่งมีวิธีการสอนและเทคนิคการสอนจำนวนมาก ได้แก่ · วิธีการสอนคิด · วิธีการสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ · CIPPA MODEL · วัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT · วิธีสอนตามแนวพุทธวิธี · วิธีสอนแบบบรูณาการ · วิธีสอนโครงงาน · วิธีสอนโดยการตั้งคำถาม · Constructivism
3 ระดับปฏิบัติการ ได้แก่ สถานศึกษานำร่อง เป็นสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในสังกัด สพฐ. (ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา) สถานศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นต้นสังกัด) และสถานศึกษาในสังกัดเอกชน (ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาและกลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชนในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด) [มาตรา 27] สถานศึกษานำร่องเหล่านี้จะมีอิสระและความคล่องตัว ทั้งด้านวิชาการ บุคลากร งบประมาณ และการบริหารทั่วไป ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ. 2562 2. ข้อดีของ พ. ต่อโรงเรียนนำร่อง และอาจเป็นแนวทางสำหรับโรงเรียนนิติบุคคล ข้อดีของ พ. 2562 ต่อโรงเรียนนำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา หากจะใช้เป็นแนวทางสำหรับโรงเรียนนิติบุคคล ก็จะทำให้ได้เห็นแนวทางหรือช่องทางในการปลดล็อก โดยเน้นด้านวิชาการ ด้านบุคคล และด้านงบประมาณ ที่กำหนดไว้ในมาตราต่างๆ ใน พ. 2562 อย่างน้อย 9 ข้อ ดังนี้ 2. 1 ปรับใช้หลักสูตรแกนกลางฯได้ ไม่ติดตัวชี้วัด ตามมาตรา 20 (4) มาตรา 25 มาตรา 26 2.
วันเสาร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙. ๐๐ น.
ร. บ. ต่อโรงเรียนนำร่อง และอาจเป็นแนวทางสำหรับโรงเรียนนิติบุคคล และ 3) ข้อจำกัดของ พ. ต่อโรงเรียนนิติบุคคล ดังนี้ 1. รูปแบบการบริหารของพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ. พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ. 2562 วางโครงสร้างการบริหารและการทำงานไว้ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับนโยบาย พื้นที่ และปฏิบัติการ รายละเอียด ดังนี้ 1. 1 ระดับนโยบาย ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธาน [มาตรา 10] มีหน้าที่และอำนาจในการส่งเสริมให้มีพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา วางนโยบาย กำกับดูแล วางหลักเกณฑ์การประเมินผล และมาตรฐานข้อมูล เป็นต้น [มาตรา 15] มีสำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เป็นหน่วยงานภายใน สพฐ. เป็นฝ่ายวิชาการและธุรการของคณะกรรมการนโยบาย [มาตรา 18] (2) 1. 2 ระดับพื้นที่ ได้แก่ คณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน [มาตรา 19] มีหน้าที่และอำนาจในการวางนโยบายขับเคลื่อนระดับจังหวัด ปรับใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สร้างการมีส่วนร่วม ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ออกแบบการทดสอบและประเมินผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน เป็นต้น [มาตรา 20] มีสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเป็นฝ่ายธุรการของคณะกรรมการขับเคลื่อน [มาตรา 24] 1.