เตา อั้งโล่ โบราณ
"เหตุใด อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก (external hard drive) ยี่ห้อ Seagate ของผมแสดงขนาดความจุไม่ตรงกับความเป็นจริง? ผมมีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก ขนาด 4TB สำหรับใช้สร้าง ไดรฟ์กู้คืน (Recovery Drive) และ สำรองข้อมูล (Backup) ทั่วไป. ผมตัดสินใจทำการ ฟอร์แมตไดรฟ์ เพื่อนำมาใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (Laptop) เครื่องใหม่ แต่หลังจากทำการฟอร์แมต เสร็จ Windows แจ้งว่ามีขนาดความจุเหลือเพียง 32GB (จากความจุจริง 4TB). มันเกิดอะไรขึ้นกับเนื้อที่ส่วนที่หายไป? " คุณเคยพบปัญหา อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก ของคุณแสดงจำนวนความจุไม่ตรงตามขนาด บน Windows หรือ Mac ไหม? จากการตรวจสอบ พบว่าฮาร์ดไดรฟ์ ส่วนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่กว่า 2 TBขึ้นไป จะเกิดปัญหานี้ ไม่ว่าจะเป็น ฮาร์ดไดรฟ์ ของ Seagate, Lacie, Western Digital หรือ Sandisk เมื่อคุณนำอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกขนาด 2TB ต่อคอมเพิวเตอร์ คุณจะพบว่าระบบปฏิบัติการ รายงานเนื้อที่ไดรฟ์เพียง 500G, 200G, 127G หรือ 32G ปัญหานี้นอกจากจะเกิดกับ ฮาร์ดไดรฟ์ ความจุมากกว่า 2 TB แล้ว ฮาร์ดไดรฟ์ ขนาดต่ำกว่า 2TB ก็อาจเกิดปัญหาได้เช่นกัน คำถามคือ อะไรเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหานี้? และ คุณจะสามารถเรียกคืนพื้นที่ของฮาร์ดไดรฟ์ กลับมาตามขนาดจริงได้ไหม?
ดูตัวอย่างและกู้คืนข้อมูลและไฟล์ในฮาร์ดไดรฟ์ที่สูญหาย หลังจากดูตัวอย่างแล้ว โปรดเลือกไฟล์ที่ต้องการซึ่งสูญหายในไดรฟ์ และคลิก "Recover"(กู้คืน) เพื่อบันทึกไว้ในตำแหน่งที่ปลอดภัยบนพีซีของคุณ หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกอื่น วิธีที่ 3. ตั้งค่าให้เห็นไฟล์ที่ถูกซ่อน ใช้ได้กับ: ไฟล์ที่ถูกซ่อนใน File Explorer จากการตั้งค่า การซ่อนไฟล์ นิยมใช้กับไฟล์ที่ถือว่ามีความสำคัญหรือมีความลับ ทำให้ไม่สามารถเห็นไฟล์เหล่านั้นได้ หากคุณได้ทำการซ่อนไฟล์โดยบังเอิญ ก็จะเกิดปัญหานี้ตามมา ดังนั้น วิธีนี้จะแสดงการตั้งค่าให้เห็นไฟล์ที่ซ่อนไว้ ขั้นตอนที่ 1. ทำการเชื่อมต่อ ฮาร์ดดิสก์แบบพกพาที่มีปัญหาเข้ากับคอมพิวเตอร์ ขั้นตอนที่ 2. ดับเบิลคลิกที่ " พีซีเครื่องนี้" แล้วเปิด File Explorer ขั้นตอนที่ 3. คลิกเปิดฮาร์ดดิสก์ ขั้นตอนที่ 4. ไปที่แท็บ "มุมมอง" แล้วในส่วน แสดง/ซ่อน เลือก "รายการที่ซ่อน" เสร็จแล้ว คุณจะเห็นไฟล์ที่ซ่อนไว้อีกครั้ง วิธีที่ 4. ใช้ CMD เรียกไฟล์ที่ถูกซ่อน ใช้กับ: ไฟล์ที่ถูกซ่อนหรือลบโดยไวรัส ไวรัส หรือ malware บางตัวอาจทำให้เกิดปัญหาไฟล์สูญหายบนฮาร์ดดิสก์เช่น shortcut virus จะทำการซ่อนข้อมูลต้นฉบับ แล้วสร้าง shortcut ของไฟล์เหล่านั้นขึ้นมาแทน เพื่อทำการแก้ปัญหาที่เกิดจากไวรัส สามารถใช้ CMD ตามนี้ได้: ขั้นตอนที่ 1.