เตา อั้งโล่ โบราณ
ภายหลังจากประกันรถยนต์หมดอายุ มีหลายคนที่อยากเปลี่ยนประกันเจ้าใหม่ เลยใช้วิธีเคลมสีรอบคันกับประกันเจ้าเดิม เพื่อรักษารอยแผลต่าง ๆ ให้ครบก่อนที่ประกันรถยนต์เจ้าใหม่จะเข้ามาตรวจสภาพรถก่อนทำประกัน แต่การเคลมสีรอบคันด้วยการทำสีรถยนต์ใหม่ทั้งคันอาจทำให้สีรถยนต์บางลงจึงมีเจ้าของรถยนต์บางส่วนเลือกจะทำสีรถยนต์เฉพาะเป็นบางจุดเท่านั้น แต่ภายหลังจากทำสีรถยนต์มาเสร็จแล้ว ควรมีวิธีดูแลรักษารถยนต์ของเราอย่างไรไม่ให้สีที่ทำมาได้รับความเสียหาย สินมั่นคง ประกันรถยนต์ มีข้อมูลมาบอกต่อค่ะ 1. ล้างรถด้วยน้ำเปล่าในช่วง 30 วันแรกของการทำสี หลังจาก 30 วันผ่านไป ให้ใช้น้ำยาล้างรถที่สามารถชะล้างความสกปรกที่เกาะอยู่ที่ผิวรถได้มาล้าง ไม่ควรใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาที่มีความเข้มข้นสูงเกินไป หรือน้ำยาที่มีความเป็นด่างสูง คือมีค่า PH มากกว่า 7 โดยสามารถเช็คค่า PH ได้ที่ฉลากข้างขวด PH ซึ่งควรมึค่าอยู่ในช่วง 6. 5 - 7. 5 เพื่อป้องกันน้ำยาทำลายสีรถ 2. ล้างรถยนต์ด้วยน้ำเปล่าแรงดันปกติ เพราะการทำสีรถใหม่ การยึดเกาะของชั้นสี รองพื้น หรือ แลกเกอร์ ยังไม่แห้งสนิท เมื่อชั้นแลกเกอร์แข็งตัวและผ่านการอบ ฟิล์มจะเซ็ตตัวและเริ่มแข็งขึ้น แต่การระเหยของชั้นทินเนอร์ที่อยู่ในชั้นสีพื้นของตัวถังจะระเหยออกไปเรื่อย ๆ จนหมด โดยใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือนตามสภาพ ซึ่งหากการจับตัวที่ยังไม่สมบูรณ์ของทุกชั้นสี เมื่อโดนน้ำอัดแรงๆ โดยเฉพาะบริเวณขอบชิ้นงาน หรือปลายรอยต่อชิ้นงาน อาจทำให้เกิดการลอกร่อนได้ หลังจากนั้นจึงเช็ดให้แห้งด้วยผ้าชามัวร์ หรือผ้าที่มีความนุ่ม โดยเฉพาะรถสีดำที่จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ 3.
ชนิดและยี่ห้อของสีและแล็กเกอร์ที่ใช้ในการพ่นเคลือบรวมทั้งวัสดุอื่นๆเช่น สีโป๊ว สีรองพื้น สีรองพื้นป้องกันการลอกล่อนและทินเนอร์ มีราคาแตกต่างกัน 2. รถที่นำมาทำสีนั้นต้องเคาะตัวถังหรือซ่อมแต่ละชิ้นส่วน มากหรือน้อยเพียงใด 3. รถที่นำมาทำสีนั้นต้องตัดปะผุตัวถังหรือส่วนอื่นๆ มากหรือน้อยเพียงใด ดังนั้นราคาที่แจ้งไว้จึงเป็นราคาคร่าวๆเท่านั้น ต้องให้ช่างได้ดูรถของท่านก่อนนะครับ... ท่านที่ต้องการซ่อมแบบราคาถูกๆ หรือแบบมาตรฐานทั่วไป หรือแบบแพงๆ เราสามารถจัดให้ท่านได้ตามงบประมาณของท่าน ราคาคุยกกันได้ ราคาก็ขึ้นอยู่กับเกรดของวัสดุที่ใช้และความยากหรือง่ายในการทำ ราคาสามารถต่อรองได้ครับ « แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 มีนาคม 2015, 08:46:03 โดย meee » บันทึกการเข้า update 01-03-2558 none สนใจนะครับ ขอเก็บงบก่อน บันทึกการเข้า
เป็นเรื่องทั่วไปสำหรับคนรักรถ เมื่อรถใช้มาซักระยะสีเริ่มหม่น หรือมีแผลเป็นริ้วรอยไม่น่ามอง ก็อยากจะถือโอกาส แต่งตัวให้รถเสียใหม่ ความคิดเรื่องการทำสีรอบคัน ก็จะเริ่มมีเข้ามาในสมอง วันนี้เราจะมีข้อมูลให้เห็นว่าขั้นตอนทำสีรอบคัน เพื่อให้รถออกมาสวยงามดังใจเป็นเช่นไรบ้าง 1. กรณีที่มีการทำประกันภัยประเภท 1 ไว้ ก็ต้องเริ่มจากการแจ้งเคลมก่อน เคลมสีรอบคัน ก็จะต้องเคลมทั้งหมด 13 ชิ้นงานรอบตัวรถ ส่วนร่วมมากน้อยก็ว่ากันไปตามประวัติการประกันที่ผ่านมา 2. เมื่อมีการเคลมแล้วก็จะเป็นขั้นตอนของการทำสีรอบครับซึ่งเริ่มจากการล้างทำความสะอาดตัวรถรอบคัน 3. ขูดสีรถออกทั้งหมดจนเห็นเนื้อเหล็ก 4. พ่นสีพื้นหรือสีเกาะเหล็กรอบตัวรถทั้งหมด เพื่อให้สีที่จะลงต่อไปเกาะกับเนื้อเหล็ก 5. ในกรณีที่มีการเคาะเนื่องจากรถมีแผลบุบ ต้องมีการใช้สีโป้วทับบริเวณที่พ่นสีพื้นไว้ เพื่อทำให้ผิวของรถบริเวณนั้นเรียบ ลดการเกิดสนิมและการยุบตัวของสีรถ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้สีโป้วแห้งสนิทตามธรรมชาติ 6. ขัดสีโป้ว ( ใช้น้ำธรรมดาขัด) เพื่อดูว่ายังมีรอยแผลอยู่หรือเปล่า สีของรถเรียบหรือไม่ ถ้ายังมีรอยหรือเกิดรูเนื่องจากการจมของสี จะต้องกลับไปลงสีโป้ว และอบสีโป้วซ้ำอีกครั้ง แล้วขัดสีโป้วอีกครั้งหนึ่ง 7.
สีรถยนต์ OEM สี OEM หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "สีอบ" (High Bake Paint) คือสีที่ใช้ในโรงงานประกอบรถยนต์ สีชนิดนี้มีเพียงองค์ประกอบเดียว ในการใช้งานอาจนำมาผสมกับตัวทำละลายเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น จะแห้งตัวโดยการอบที่อุณหภูมิสูงประมาณ 120-160 องศาเซลเซียส หลังจากสีแห้งตัวแล้ว จะได้ฟิล์มสีที่มีคุณภาพดีมาก ชั้นฟิล์มของสีมีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อตัวทำละลายได้ดีมาก เช่น ทินเนอร์ น้ำมันเบนซิน หรือดีเซล อีกทั้งยังทนทานต่อสารเคมีต่าง ๆ คุณสมบัติของสี OEM: ให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม มีเนื้อสีมากและคุณภาพความเงาดี ทนทานต่อแสงแดดได้ดี สีไม่ซีดจางง่าย มีความคงทนสูง และคงสภาพเดิมได้นานมาก 2. สีรถยนต์ 1K สี 1K (1 Komponent) คือสีระบบ 1 องค์ประกอบ คือสีที่ประกอบด้วยส่วนของตัวสีเพียงอย่างเดียว นำมาผสมกับตัวทำละลาย เช่น ทินเนอร์ และเมื่อตัวทำละลายจะระเหยไปจนหมดเหลือแต่สีที่แห้งตัวแล้วเท่านั้น ซึ่งสี 1K มีทั้งแบบสีแห้งเร็วและแห้งช้า ได้แก่ สี 1K มีหลายชนิด ได้แก่ สี 1K ซินเทติกอีนาเมล หรือสีน้ำมัน เป็นสีแบบแห้งตัวช้า ซึ่งแห้งตัวโดยการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ (Oxidation) สี 1K ไนโตรเซลลูโลส และสี 1K อะคริลิคเป็นสีแบบแห้งตัวเร็ว ซึ่งแห้งตัวโดยการระเหยตัวของตัวทำละลาย 3.
นำรถไปล้างด้วยน้ำธรรมดาอีก 1 รอบเพื่อเตรียมที่จะเข้าห้องพ่นสีจริง 8. นำรถเข้าห้องพ่นสีจริงในห้องอบสีโดยเฉพาะเพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงฝุ่นหรือสารเคมีที่ทำให้สีรถเพี้ยน ต้องพ่นทั้งหมด 3 รอบ แต่ละรอบเว้นระยะเวลาให้สีเกาะตัว ก่อนที่จะพ่นแลคเกอร์ทับลงไปทิ้งไว้อีก 30 นาที 9. นำรถ เข้าห้องอบสีรถเพื่อทำให้สีรถแห้งและทำให้สีความคงทน ทิ้งรถในห้องอบสีไว้ประมาณ 30 นาที อบด้วยความร้อน 60 C และจำเป็นต้องทิ้งให้สีแห้งอีกตามธรรมชาติ 2-3 วัน 10. นำรถที่ออกจากห้องอบสี ไปล้างทำความสะอาด เพื่อขัดเม็ดฝุ่นเล็กๆที่มาจากห้องอบสี โดยการขัดหยาบและขัดเส้นเพื่อเก็บรายละเอียดของสีรถ ตามด้วยขัดเงาอีกหนึ่งรอบ 11.
ทำสีทั้งคัน ประกันรถยนต์คุ้มครองหรือไม่? ไดเร็ค เอเชีย อัปเดตอู่ซ่อม 2564 ดูแลครบตั้งแต่ต้นจนจบ ดีจนต้องยกนิ้วให้ ใครว่าซ่อมอู่ ไม่หรูเท่าซ่อมห้าง! บริการซ่อมอู่สุดพรีเมี่ยมจาก DirectAsia ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง ประกันรถยนต์ พร้อม เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ทั้ง ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิกเว็บไซต์ DirectAsia หรือสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777 *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด การันตีราคาดี ผ่อนสบาย 0% 10 เดือน ไม่มีเวลาเช็คเบี้ย? ปรึกษากับเราโดยตรงที่นี่ About Direct Asia กล้าเปลี่ยนวิธีประกันภัยรถยนต์ให้ดียิ่งขึ้น – แบบออนไลน์ ด้วยเบี้ยประกันที่ต่ำกว่า เราภูมิใจได้เสนอแนะวิธีที่ฉลาดกว่าในการซื้อประกันภัยรถยนต์ให้ชาวไทย