เตา อั้งโล่ โบราณ
บัตเตอร์เฮด (Butterhead Lettuce) หรือจะเรียกว่า "บอสตัน" หรือ "บิบ" เป็นผักที่มี ลักษณะใบอ่อนนุ่ม เรียงซ้อนกันคล้ายดอกกุหลาบ ห่อหัวแบบหลวม กาบหนา อวบฉ่ำน้ำ รสชาติหวานกรอบ มีสรรพคุณช่วยบำรุงเส้นผม บำรุงผิว ลดคอเรสเตอรอล บำรุงประสาท ป้องกันโลหิตจาง 5. ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก (Frillice Ice Berg Lettuce) เป็นพืชล้มลุก ทรงพุ่มใหญ่ ใบแข็งกรอบ หยิกเป็นฝอย กาบหนาอวบน้ำ อุดมไปด้วยวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา แก้ปวด ขับเสมหะ ป้องกันมะเร็ง ช่วยขับน้ำนม สร้างเม็ดเลือด ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ 6. ผักกาดหอมคริปส์เฮด หรือผักกาดแก้ว (Iceberg or Crisphead Lettuce) มีลักษณะคล้ายกะหล่ำปลี แต่ใบบางกว่า อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง มีคุณสมบัติช่วยให้นอนหลับง่าย ผ่อนคลาย 7. กรีนโครอล หรือ ผักกาดหอม (Green Coral Lettuce) ลัษณะใบหยักละเอียดแบบฟันเลื่อย ลำต้นอวบสั้น ใบจะเจริญจากข้อเป็นกลุ่ม อุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินซีสูง ช่วยรักษาอาการท้องผูก 8. เรดโครอล หรือ ผักกาดหอมแดง (Red Coral Lettuce) บางท่านอาจจะสับสนระหว่างเรดโอ๊คกับเรดโครอล ถ้าสังเกตเราจะพบว่าเรดโครอลจะมีใบที่หยิกกว่า ฟูกว่า เรดโอ๊ค มีรสชาติขมเล็กน้อย มีสรรพคุณช่วยกำจัดไขมัน ต้านอนุมูลอิสราะ ลดการเกิดของมะเร็งลำไส้ เพราะมีไฟเบอร์สูง 9.
เสริมภูมิคุ้มกัน คะน้าเป็นผักที่มีวิตามินเอสูง แถมยังมีวิตามินซีอีกไม่น้อย ดังนั้นการรับประทานผักคะน้าจึงช่วยเพิ่มสารอาหารที่ดีต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคต่าง ๆ โดยลดโอกาสเกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อ และลดความเสี่ยงอาการเจ็บป่วยโดยรวมได้ 2. บำรุงสายตา สารต้านอนุมูลอิสระในผักคะน้าที่ชื่อว่าเบต้าแคโรทีน เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ หมายความว่าสารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นวิตามินเอ ส่งผลดีต่อการบำรุงดูแลดวงตาในด้านระบบประสาทตาและการมองเห็นได้ อีกทั้งยังมีสารลูทีน (Lutein) ซึ่งงานวิจัยพบว่า การทานอาหารที่มีลูทีนสูงจะช่วยลดความเสี่ยงโรคต้อกระจกลงถึง 20% เลย 3. เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก จะเห็นได้ว่าคะน้าเป็นผักที่มีปริมาณแคลเซียมค่อนข้างสูง จึงจัดได้ว่าคะน้าเป็นอาหารเสริมแคลเซียมที่ดีชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะคนที่แพ้นมวัวจะหันมารับแคลเซียมจากผักอย่างคะน้าก็ได้ 4. บำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง ในคะน้ามีโฟเลตและธาตุเหล็กสูง ซึ่งสารทั้งสองชนิดนี้เป็นสารอาหารจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง คะน้าจึงเป็นผักใบเขียวที่ช่วยบำรุงเลือด และลดความเสี่ยงภาวะโลหิตจางได้ 5.
บำรุงผิวพรรณ เพิ่มคอลลาเจนให้ผิว นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีนแล้ว ในผักคะน้ารวมไปถึงผักใบเขียวทุกชนิดยังมีสารลูทีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในเซลล์ผิว ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียนไร้ริ้วรอยแห่งวัยโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือกระบวนการศัลยกรรมใด ๆ อีกทั้งวิตามินซีในผักคะน้ายังจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เนื้อเยื่อมีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย 6. ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ผักคะน้ามีไฟเบอร์สูงมาก โดยเฉพาะในส่วนของใบคะน้า ดังนั้นการรับประทานผักคะน้าในปริมาณที่เหมาะสมก็มีส่วนช่วยเพิ่มใยอาหารให้ลำไส้ กระตุ้นระบบขับถ่ายให้มีความคล่องตัวมากขึ้นได้เหมือนกัน 7.
ผักและผลไม้อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ มีแร่ธาตุและวิตามินมากมาย และยังจัดว่าเป็นอาหารที่มีไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) หรือสารพฤกษเคมีสูง ซึ่งคือสารอาหารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้รับจากพืชเท่านั้น โดยมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อม กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และช่วยป้องกันการติดเชื้อและการเกิดโรคต่างๆได้ นอกจากในผักและผลไม้จะมีวิตามินและแร่ธาตุสูงแล้ว ยังมีกากและใยอาหารที่ได้จากผักและผลไม้ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ ลดอาการท้องผูกได้อีกด้วย ผลไม้-ผัก 5 สี มีสีอะไรบ้าง?
ผักร็อคเก็ต หรือ ผักอลูกูล่า (Rocket Arugula Lettuce) มีต้นกำเนิดจากประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน มีลักษณะเป็นพุ่ม ใบเขียวเข้ม ใบอ่อนเรียวยาว มีรสชาติเผ็ดคล้ายพริกไทย อุดมไปด้วยวิตามินซี โปรแตสเซียม แคลเซียมสูง ร็อคเก็ตเป็นผักที่ค่อนข้างบอบบาง เน่าเสียง่าย และยังมีราคาสูงกว่าผักสลัดชนิดอื่นๆ จึงควรรีบรับประทานทันที 10. ไวลด์ ร็อกเก็ต (Wild Rocket) เป็นผักในตระกูลเดียวกับร็อคเก็ต แต่จะมีลักษระใบที่ต่างกันน ไวลด์ร็อกเก็ตจะมีลักษระใบรี ยาว ขอบใบหยักลึก ไม่เรียวมน มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย ถ้าหากนำไปปรุงอาหารด้วยความร้อน รสชาติขมจะหายไป อุดมไปด้วยยวิตามินซี ป้องกันการเกิดไขหวัดได้ดี พอจะรู้จัก ผักสลัด ที่เราทานกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ แต่ละชนิดก็มีชื่อเรียกและคุณสมบัติที่ต่างกัน แต่ที่แน่ๆทานแล้วไม่อ้วนคะ
9 กรัม 1% ไขมันอิ่มตัว 0. 1 กรัม 0% ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 0. 3 กรัม ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 0. 1 กรัม โคเลสเตอรอล 0 มิลลิกรัม 0% โซเดียม 38 มิลลิกรัม 1% โพแทสเซียม 491 มิลลิกรัม 14% คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 10 กรัม 2% ใยอาหาร 2 กรัม 8% โปรตีน 4. 3 กรัม 8% วิตามินเอ 199% วิตามินซี 200% วิตามินเค 881% แคลเซียม 15% เหล็ก 8% วิตามินดี 0% วิตามินบี 6 15% วิตามินบี 12 0% แมกนีเซียม 11% จะเห็นได้ว่าผักเคลปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานที่ต่ำมากเพียง 49 กิโลแคลอรี่ เท่านั้น จากค่าสารอาหารต่างๆ ในผักเคลเรามาดูรายละเอียดของคำขนานนามขึ้นชื่อของผักเคลกันค่ะ "The new beef" ถ้าเรามองค่าโปรตีนที่มีในผักเคลจะอยู่ที่ 4.
✎ โพสต์เมื่อวันที่: 24 ธ. ค.
ท่านเคยทราบไหมว่า ผักสลัด ที่เราทานๆกันอยู่มีชื่อว่าอะไรกันบ้างและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ลองอ่านดูนะคะได้ทานยังโดยชาวกรีดและโรมันได้นำเมล็ด ผักสลัดในตระกูลผักสลัดนั้นมีการปลูกครั้งแรกในสมัยอียิปต์ หลายพันปีก่อน 1. เรดโอ๊ค (Red Oak Lettuce) เรดโอ๊คเป็นพืชสีแดงเข้มเบอร์กันดี บริเวณขอบใบหยัก เป็นผักที่มีใบซ้อนเป็นชั้น อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี โฟเลต ธาตุเหล็ก มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีกากใยสูงซึ่ง่ช่วยเรื่องระบขับถ่าย บำรุงสายตา กล้ามเนื้อ โรคปกานกกระจอก 2. กรีนโอ๊ค (Green Oak Lettuce) เป็นผักสลัดสีเขียวสด ใบหยัก มีลักษณะเป็นพุ่มคล้ายเรดโอ๊ค มีรสชาติหวาน กรอบ รับประทานง่ายจึงเหมาะสำหรับคนที่เริ่มทานผักหรือไม่ชอบทานผัก อุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินซี ไฟเบอร์สูงจึงช่วยเรื่องการขับถ่าย การปลูกผักกรีนโอ๊คหากมีสภาพอากาศร้อน จะทำให้พืชสร้างสารคล้ายน้ำนมหรือยากมากขึ้น ทำให้ผักมีลักษณะเหนียว และมีรสขม 3. ผักคอส กรีนคอส หรือผักกาดโรแมน (Cos Lettuce or Romaine Lettuce) ในประเทศอังกฤษเรียกว่า "คอส" และในประเทศอเมริการเรียก "โรเมน" ผักคอสมีลักษณะใบเขียวเรียวยาว กรอบ ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว ซ้อนกันเป็นช่อ มีด้วยกันหลายสายพันธุ์ มีทั้งแบบใบกลมขนาดเล็ก ห่อเป็นหัว ที่เรารู้จักกันว่า เบบี้คอส นั่นเองคะ ผักคอสสามารถทนความร้อนได้ดีกว่าผักสลัดชนิดอื่นๆ นิยมใช้ทำเมนูซีซ่าร์สลัด มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง และช่วยระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก 4.